ด้วยกระแสความนิยมของอาหารญี่ปุ่นที่ได้แพร่กระจายไปทั่วทวีปเอเชียและทวีปอื่น ๆ ทั่วโลก จนใคร ๆ ก็รู้จัก ซาซิมิและ ซูชิ อันเป็นเมนูสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นไปโดยปริยาย แต่ยังมีอีกเมนูที่มีรูปร่างสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั่นก็คือ โอนิกิริ หรือเรียกอีกอย่างว่า โอมูซูบิ ซึ่ง โอนิกิริคือ ข้าวสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่ถูกหุงอย่างประณีตและผสมกับน้ำส้มสายชูชนิดพิเศษของญี่ปุ่น จากนั้นจะถูกบรรจงปั้นให้ได้รูปทรงเป็นสามเหลี่ยมหรือวงรีก็ได้ โดยภายนอกจะถูกห่อด้วยสาหร่ายซึ่งมีสีตัดกันจึงทำให้เกิดความสวยงามและน่ารับประทาน ด้านในจะมีการใส่ไส้ต่าง ๆ อันจะทำให้เกิดรสชาติที่สร้างความกลมกล่อมร่วมไปกับเมล็ดข้าวญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
ประวัติของการคิดค้น โอนิกิริ ในแบบฉบับของคนญี่ปุ่น
ในสมัยอดีต การคิดค้นข้าวปั้น หรือ โอนิกิริ ขึ้นก็เพื่อความสะดวกสบายในการรับประทานและสามารถเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายซึ่ง ข้าวปั้นในยุคก่อน ๆ จะไม่มีการปรุงหรือใส่ส่วนผสมอื่นมากนัก โดยจะมีเพียงข้าวเปล่าผสมกับเกลือหรือซอสบางชนิดเท่านั้น ซึ่งมันกลายเป็นแหล่งพลังงานชั้นเยี่ยมให้แก่ทหารที่จะต้องเดินทางไปยังสนามรบในพื้นที่ต่าง ๆ โดยช่วงแรก ๆ นั้นจะนิยมปั้นเป็นก้อนทรงกลมธรรมดา จากนั้นจึงได้มีพัฒนาการปั้นทรงเหลี่ยมเพื่อในขณะที่พกพาจะสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าและพกไปได้ในปริมาณที่มากกว่าทรงกลมนั่นเอง มาในยุคเมจิคนญี่ปุ่นจึงได้รู้จักนำเอาสาหร่ายเข้ามาห่อคลุมข้าวปั้นนั้น ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากขึ้น และทำให้ผู้ทานเกิดความอร่อยในระหว่างการกินได้มากกว่าเดิม โดยการทานข้าวปั้นนั้นได้แพร่หลายไปในหมู่คนทั่วไปที่ไม่ใช่แค่นักรบ แต่ยังพบว่ามีนักเรียนนักศึกษาและคนวัยทำงานที่มีพฤติกรรมการห่อข้าวปั้นไปทานในระหว่างการทำงานอีกด้วย เพราะเป็นอาหารที่ทานได้ง่ายและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการจัดเตรียมอาหารได้เป็นอย่างดี

ความนิยมของการทานโอนิกิริ ในไทย
กระแสความนิยมในการทานข้าวปั้นตามแบบฉบับของญี่ปุ่นนั้น เริ่มแรกถูกนำเสนอผ่านสื่อต่าง ๆ ที่มาจากดินแดนอาทิตย์อุทัย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์หรือแม้กระทั่งสื่อการ์ตูนต่าง ๆ ที่มักจะมีวัฒนธรรมการทานข้าวปั้นของคนญี่ปุ่นแอบแฝงมาด้วยเสมอ ทั้งในลักษณะการทานอาหารภายในครอบครัว การห่อไปรับประทานในที่ทำงาน โรงเรียน หรือในระหว่างการออกเดทของคู่รักก็มีปรากฏให้เห็นอยู่เนือง ๆ และหลังจากที่ได้มีธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นขยายตัวเข้ามาในประเทศไทยจึงทำให้เกิดความสนใจในเมนูข้าวปั้นขึ้นมา ดังจะเห็นได้จากร้านอาหารชั้นนำที่มีการชูเอาเมนูนี้ขึ้นเพื่อจำหน่าย ตลอดจนมีข้าวปั้นปรากฏอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้มีสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเวลานั้น ๆ โดยจะพบว่ามีข้าวปั้นหลายรสชาติให้ลูกค้าเลือกซื้อซึ่งสามารถแบ่งแยกย่อยให้พอนึกภาพออกได้ ดังนี้
- โอนิกิริแซลมอนย่างซีอิ๊ว เป็นข้าวปั้นที่ได้รับความนิยมมากพอสมควร โดยจุดเด่นเป็นเนื้อปลาแซลมอนชิ้นโตที่แทรกตัวอยู่ในข้าวปั้นได้เป็นอย่างดี โดยรสชาติของแซลมอนย่างมีความกลมกล่อมไม่เค็มมาก จึงทำให้สามารถทานควบคู่ไปกับข้าวญี่ปุ่นได้อร่อยอย่างน่าเหลือเชื่อ
- ข้าวปั้นแซลมอนไข่กุ้งสไปซี่ อีกรสชาติของข้าวปั้นที่แตกต่างจากชนิดอื่น ๆ โดยนำเอารสเผ็ดนิด ๆ ของซอสชนิดพิเศษเข้ามาผสมกับเนื้อของแซลมอนและไข่กุ้งได้อย่างลงตัว
- ข้าวปั้นแซลมอนชีส อีกหนึ่งรสชาติของข้าวปั้นที่มีส่วนผสมของชีสเข้ามาร่วมด้วย เมื่อทานจะได้สัมผัสของความหอมและมัน แถมซอสที่มีความฉ่ำจึงทำให้ทานได้ง่ายสุด ๆ เลย
- ข้าวปั้นไข่กุ้งมายองเนส เอาใจคนชอบไข่กุ้งเป็นพิเศษด้วยการนำไข่กุ้งมาผสมกับมายองเนสพร้อมกับซอสสูตรพิเศษที่อัดเข้าไปในข้าวญี่ปุ่นขนาดพอดี ทำให้ผู้ทานได้รับสัมผัสของความกรุบกรอบของไข่กุ้งและความหอมมันของมายองเนสได้เป็นอย่างดี
- ข้าวปั้นซาบะย่างเกลือ อีกชนิดของข้าวปั้นในไทยที่มีกระแสตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยเป็นไส้ที่มีเนื้อของปลาซาบะย่างที่ปรุงรสด้วยเกลือและปั้นอย่างพิถีพิถัน จึงทำให้ได้ข้าวปั้นหน้าปลาซาบะย่างที่มีความอร่อยจนต้องหามาทานอีกครั้งให้ได้
- ข้าวปั้นสลัดปูอัด ข้าวปั้นอีกประเภทที่นำเสนอปูอัดให้โดดเด่นควบคู่ไปกับซอสสูตรพิเศษพร้อมกับมายองเนสที่จะทำให้การทานปูอัดคู่กับข้าวญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป
ข้อดีของการรับประทานโอนิกิริ
- ได้รับพลังงานที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนประกอบหลักของการทำข้าวปั้นคือ ข้าวญี่ปุ่น ซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารหลักอันจะทำให้ผู้ที่ทานมีเรี่ยวแรงในการทำงาน
- ได้รับวิตามินที่มีอยู่ในข้าวญี่ปุ่น สาหร่าย และไส้รสชาติต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดี และไม่ขาดสารอาหาร
- ได้เปิดสัมผัสการรับประทานอาหารรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากอาหารไทย ทั้งรสชาติที่กลมกล่อมไม่จัดจ้านแต่เข้ากันได้ดี ร่วมทั้งหน้าตาของอาหารที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของชาติญี่ปุ่นได้อีกด้วย
- ประหยัดเงินแต่ได้ทานของดี ๆ เพราะราคาของการซื้อข้าวปั้นถือเป็นเมนูราคาถูกเมื่อเทียบกับอาหารญี่ปุ่นทั่ว ๆ ไป
- สามารถทานเป็นเมนูลดน้ำหนักได้สำหรับผู้ที่กำลังควบคุมอาหารโดยหลักในการเลือกซื้อควรพิจารณาจากส่วนประกอบต่าง ๆ ที่จะปรากฏในฉลากของสินค้า ทางที่ดีควรเลือกเป็นรสที่ใช้เนื้อปลาเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น ทูน่า แซลมอนหรือซาบะก็ได้
ถึงแม้การทานโอนิกิริ จะมีคุณประโยชน์มากเพียงใดก็ตามแต่ผู้บริโภคจะต้องทานอาหารอย่างอื่นร่วมด้วยให้ครบ 5 หมู่ด้วย เพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหารและจะทำให้ผู้ทานได้รับสารอาหารที่หลากหลาย ซึ่งนำไปสู่ร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์แบบที่ควรจะเป็นนั่นเอง
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลของ โอนิกิริ ข้าวปั้นที่มีกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น โดยการคิดค้นเล็ก ๆ นี้นำไปสู่วัฒนธรรมทางอาหารที่แพร่หลายไปสู่ประเทศต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจ โดยหนึ่งในประเทศที่ได้รับอิทธิพลความนิยมนั้นก็คือประเทศไทย ทั้งนี้คุณประโยชน์ต่าง ๆ ที่มีในข้าวปั้นนั้นก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้อาหารชนิดอื่น ๆ เลยทีเดียว หากวันนี้คุณกำลังหิว ลองหาข้าวปั้นสักชิ้นมาทานดูนะคะ แล้วจะพบว่าความอร่อยอย่างลงตัวไม่ต้องมีราคาแพงเลย Ufabet เว็บหลัก